เกี่ยวกับบริษัท "MNR"

ทางบริษัทมีแผนประกันภัยหลากหลายจากบริษัทประกันภัยกว่า 20 บริษัทชั้นนำ ให้ลูกค้าได้เลือกเทียบราคา

บริษัท เอ็มเอ็นอาร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ MNR insurance broker เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยอย่างเป็นทางการ รับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ใบอนุญาตเลขที่ ว00020/2555 นอกจากนี้ บริษัทประกันภัยของเรายังรับประกันโดยบริษัทประกันกว่า 20 บริษัทชั้นนำ

คำถามที่พบบ่อยประกันรถยนต์

  • เมาแล้วขับ
  • ขับรถแข่งความเร็ว
  • ไม่ได้ทำใบขับขี่
  • นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
  • ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหนัก หรือ รถเสื่อมสภาพตามอายุ
  • ขับรถออกนอกพื้นที่คุ้มครอง
  • ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้
  • นำรถไปลากจูง
  • กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู

ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนฟุตบาธ ชนกำแพง หรืออุบัติเหตุอื่นๆ เช่น ยางแตก ยางระเบิด กระจกร้าว เบรกแตก จนเป็นเหตุให้รถเกิดอุบัติเหตุ และเกิดความเสียหาย หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์

ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • ค่า Deductible หรือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ คือ ค่าใช้จ่ายที่เรายินดีรับผิดชอบเมื่อมีการการเคลมประกันในอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เมื่อเกิดเหตุและมีความเสียหายเท่ากับ 1,000 บาทหรือน้อยกว่า เราก็จะไม่ได้รับการชดเชยจากบริษัทประกัน แต่ถ้าค่าความเสียหายมากกว่า บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนที่เพิ่มขึ้นเอง
  • ค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ ที่กำหนดในเงื่อนไขของกรมธรรม์ จะเรียกเก็บเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือที่เรียกว่า เคลมแห้ง นั่นเอง

  • เคลมสด คือ การเคลมที่ต้องให้ตัวแทนบริษัทประกันเข้าไปตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำการออกใบเคลมค่าเสียหายสำหรับนำรถไปซ่อมต่อไป เช่น รถชนกับรถของคู่กรณี หรือรถชนเสียหายหนัก เป็นต้น
  • เคลมแห้ง คือ การเคลมประกันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้วระยะหนึ่ง ส่วนมากเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี หรือเฉี่ยวชนเบาๆ เช่น รถถอยชนกำแพง ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องบันทึกเหตุการณ์อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นจึงแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันด้วยตนเอง

  • ซ่อมอู่ คือ การนำรถเข้าซ่อมอู่ธรรมดาทั่วไป โดยอาจเลือกเป็น อู่ในเครือบริษัทประกัน หรือ อู่นอกเครือบริษัทประกัน ก็ได้
  • ซ่อมห้าง คือ การนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ โดยจะมีการให้บริการจากช่างมีฝีมือที่ได้รับมาตรฐานจากทางศูนย์บริการ

ทางบริษัท เราจะให้ส่วนลดผู้ที่เป็นลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่องและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ

ความเสียหายต่อบุคคลภายนอกให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของทรัพย์สินหรือการบาดเจ็บของบุคคลอื่น หรือการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ

ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก : ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกนั้นคล้ายกับการคุ้มครองเหตุชน ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะพาหนะและทรัพย์สินของบุคคลอื่น แต่ไม่คุ้มครองทุกอย่างของฝ่ายคุณ

การบาดเจ็บของบุคคลภายนอก : การประกันภัยทุกรูปแบบ รวมถึงการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกว่าพ.ร.บ. ต่างก็ให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บของบุคคลที่สามจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ หมายความว่าหากคุณถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนน นอกจากจะได้รับค่าเสียหายจากคนขับแล้ว ยังสามารถขอค่าชดเชยจากพ.ร.บ.ได้อีกด้วย

ซ่อมห้าง คือ ซ่อมศูนย์บริการรถยนต์

เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย ก็สามารถเลือกซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ได้

ซ่อมอู่ คือ อู่ซ่อมรถยนต์ในเครือ

บริษัทประกันภัยชั้นนำที่เป็นพันธมิตรของเรามีอู่ซ่อมในเครือที่มีคุณภาพ คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มสำหรับตัวเลือกนี้เพราะเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานในกรมธรรม์ แต่บางกรมธรรม์ก็สามารถให้คุณเลือกที่จะซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ได้

ทำได้สูงสุดไม่เกิน 15 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทประกันเป็นผู้กำหนด

1. สำเนาทะเบียนรถ

2. รูปถ่ายรถ 4 ด้าน

3. ใบเตือนต่ออายุจากที่เดิม


  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
  • คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณี
  • คุ้มครองรถยนต์คันเอาประกัน แม้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า หินดีด กระจกร้าว ยางแตก รถพลิกคว่ำ ตกถนน เป็นต้น
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้เอาประกัน และผู้โดยสาร
  • คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
  • คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา

ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 คำนวณได้หลายปัจจัย เช่น ค่าประกันรถยนต์คิดตาม 70-80% ของมูลค่ารถ จำนวนทุนประกันที่ให้ความคุ้มครอง การเลือกส่วนลดเบี้ยประกันต่างๆ เช่น ประวัติการขับขี่ที่ดี การระบุชื่อผู้ขับขี่ และส่วนลดโปรโมชันแต่ละบริษัทประกัน

ประกันชั้น 1 สามารถซ่อมห้างหรือศูนย์บริการก็ได้ โดยท่านต้องระบุก่อนซื้อประกันว่าต้องการใช้บริการเป็นซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) (สำหรับรถที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี) หรือเลือกซ่อมอู่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากกว่า 3 ปี ให้เลือกซ่อมอู่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานที่อยู่ในเครือบริษัทประกัน เพียงนำใบเคลมที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ประกันมายื่นซ่อมก็เสร็จแล้ว

เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถถูกชนแล้วคู่กรณีขับหนี สามารถแจ้งเคลมประกันชั้น 1 ได้ แต่ในบางกรณีถ้าเราไม่ทราบหมายเลขทะเบียนรถคู่กรณี อาจจะมีค่าเสียหายส่วนแรกเข้ามาด้วย โดยขึ้นอยู่การกับพิจารณาของบริษัทประกันนั้นๆ อย่างไรก็ตาม หากเรามีหลักฐานที่สามารถบอกทะเบียนรถของคู่กรณีได้อย่างเช่น กล้องติดรถยนต์ กล้องวงจรปิด ก็ให้นำมาแจ้งกับทางบริษัทประกัน เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญที่จะช่วยในการเคลม

ประกันชั้น 1 แตกต่างจากประกันชั้น 2+ คือ ประกันรถชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุการชนแบบไม่มีคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะไม่สามารถเคลมได้หากไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า ขับรถชนรั้วบ้าน เป็นต้น

ประกันชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี

เช่น ขับรถชนต้นไม้ ชนฟุตบาท ชนรั้ว หรือขับเฉี่ยวเสา เป็นต้น 

เมื่อเกิดเหตุรถโดนชนแล้วหนี เราต้องหาหลักฐานพิสูจน์ว่าเราโดนชนแล้วหนีจริงๆ เนื่องจากประกันชั้น 2+ คุ้มครองอุบัติเหตุการชนที่สามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น หากเรามีหลักฐานสำคัญอย่างพยานในที่เกิดเหตุ กล้องติดหน้ารถยนต์ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันได้

ดูบทความเพิ่มเติม

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ ประกันภัยที่เพิ่มความคุ้มครองจากประกันชั้น 2 โดยคุ้มครองค่าซ่อมรถของเราเมื่อรถชนแบบมีคู่กรณี

ส่วนประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะค่าซ่อมรถคู่กรณีเท่านั้น นอกนั้นคุ้มครองรถสูญหาย รถไฟไหม้เหมือนกัน 

ประกันรถยนต์ 3+ และ ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถที่มีคู่กรณีเหมือนกัน แต่ประกันชั้น 2+ จะเพิ่มความคุ้มครองในส่วนอื่นๆ เข้ามาด้วย ได้แก่ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถโดนน้ำท่วม หรือผลกระทบจากภัยก่อการร้าย จึงทำให้ เบี้ยประกันชั้น 2+ สูงกว่าประกันชั้น 3+

  • เหมาะสำหรับคนที่ขับขี่รถยนต์ไม่บ่อย หากไม่ได้ใช้งานรถยนต์บ่อย ๆ แต่ยังอยากได้ประกันรถที่ให้ความคุ้มครองมาก ๆ กลัวรถยนต์อาจถูกลักขโมย หรือเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถ 
  • เหมาะสำหรับคนที่ชำนาญในการขับรถ ใครที่มั่นใจในฝีมือการขับรถของตัวเอง หรือมีประวัติการขับขี่ที่ดี น้อยครั้งที่จะเกิดอุบัติเหตุ
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความคุ้มครองสูง แต่เงินในกระเป๋ามีจำกัด การเปลี่ยนจากประกันรถชั้น 1 มาเป็น ประกันรถชั้น 2
  • เหมาะสำหรับคนที่สภาพรถยนต์ไม่ตรงเงื่อนไข บางครั้งการใช้รถยนต์ที่มีอายุมานาน หรือรถยนต์มือสอง การเลือกทำประกันชั้น 1 อาจเป็นไปไม่ได้ หรือทำได้แต่มีเบี้ยประกันราคาที่แพงขึ้น

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ ประกันภัยที่เพิ่มความคุ้มครองจากประกันชั้น 2 โดยคุ้มครองค่าซ่อมรถของเราเมื่อรถชนแบบมีคู่กรณี

ส่วนประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะค่าซ่อมรถคู่กรณีเท่านั้น นอกนั้นคุ้มครองรถสูญหาย รถไฟไหม้เหมือนกัน 

ประกันชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุการชนรถกับรถ ซ่อมรถเขา ซ่อมรถเรา โดยสามารถแจ้งเคลมได้ตามทุนประกันกำหนด คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งคนขับ และผู้โดยสารในรถที่เกิดเหตุเพิ่มเติมจากพ.ร.บ. รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี

หากคุณขับรถชำนาญแล้ว มีประวัติดีมาโดยตลอด ไม่ค่อยได้ใช้รถหรือจอดรถมากกว่าขับ ประกันชั้น 3+ ถือว่าช่วยได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเบี้ยประกันรถ หรือมีงบประมาณจำกัด

ประกันชั้น 3 ครอบคลุมเหตุน้ำท่วมหรือการก่อการร้ายหรือไม่

พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับให้คุณต้องมีตามกฎหมายในประเทศไทย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ส่วนประกันชั้น 3 ครอบคลุมการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดจากเหตุรถชน แต่ไม่ดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ

ไม่คุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ไม่คุ้มครองรถยนต์ของคุณในทุกกรณี

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้