ความแตกต่างระหว่างอู่ในเครือและอู่นอกเครือ

Last updated: 19 ก.พ. 2567  |  271 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ความแตกต่างระหว่างอู่ในเครือและอู่นอกเครือ

อู่ซ่อมนอกเครือ VS อู่ซ่อมในเครือ ต่างกันอย่างไร ?

 

 

อู่ซ่อมนอกเครือ
1.) ไม่สามารถซ่อมได้ทันที ต้องทำการคุมราคา* เพื่อเสนอราคาจัดซ่อม
2.) ผู้เอาประกันหรือเจ้าของรถต้องตั้งเบิกคุมราคา หรือมอบอำนาจแทนได้
3.) ค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถอาจแพงกว่าราคาประเมิน เจ้าของรถต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างในการซ่อมเอง และต้องสำรองจ่ายเงินค่าซ่อมก่อน
4.) ไม่สามารถแจ้งเคลมเพิ่มเติมปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐานในภายหลังได้

 

 

อู่ซ่อมในเครือ
1.) นำรถดำเนินการจัดซ่อมได้ทันที แต่มีคิวในการจัดซ่อม
2.) ไม่ต้องคุมราคาก่อนการจัดซ่อม
3.) ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่มีส่วนต่าง เพราะซ่อมในราคามาตรฐานที่บริษัทประกันภัยกำหนด
4.) แจ้งเคลมเพิ่มเติมต่อเนื่องได้ เพราะบริษัทประกันมีมาตรการตรวจสอบการปฏิบัติงานของอู่ เพื่อควบคุมคุณภาพและการบริการที่ดี

 

 

 

 

5 สิ่งต้องรู้ ทั้งก่อนและหลังเอารถเข้าอู่ซ่อม

1.) ยื่นเอกสาร นัดซ่อม
จะซ่อมรถแต่ละที ต้องนำรถเข้าอู่ทั้งหมดสองรอบ โดยรอบแรกเป็นรอบยื่นเอกสาร และตรวจสอบสภาพรถ เพื่อให้อู่ทำเรื่องเสนอราคากับทางประกัน โดยใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ทางอู่จะโทรมาแจ้ง และนัดซ่อมจริงในรอบถัดไป โดยเอกสารที่ต้องใช้มีทั้งหมด 5 อย่าง คือ บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนรถยนต์, กรมธรรม์ประกันภัย ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมใบรับรองความเสียหาย หรือ ใบเคลม นั่นเอง


2.) เคลียร์ของกองไว้ที่บ้าน ก่อนเอารถเข้าอู่
ก่อนส่งซ่อม เก็บทรัพย์สินของมีค่า เครื่องประดับ พระเครื่อง ตามช่องเก็บของต่างๆให้หมด โดยเฉพาะเอกสารสำคัญส่วนตัว หรือแม้แต่รองเท้า เพราะต่อให้ไม่มีใครขโมย ก็อาจชำรุดหรือหายได้ เช่น ช่างเผลอนำออกจากรถระหว่างทำความสะอาด ดังนั้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เคลียร์รถให้โล่งตั้งแต่ที่บ้านนั่นแหละชัวร์สุด


3.) อย่าลืมใบรับรถ
หลังนำรถเข้าซ่อม ทางอู่ต้องให้ “ใบรับรถ” ด้วย เพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า รถอยู่ในการดูแลของทางเจ้าของอู่แล้ว หากเกิดเหตุใดๆ ทางอู่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และควรเช็ครายละเอียดต่างๆในใบว่าถูกต้อง เช่น อาการเสียหรือแผลที่ต้องการซ่อม, เลขไมล์, ปริมาณน้ำมันคงเหลือ, จำนวนวันคร่าวๆที่ต้องทำการซ่อม, รอยตำหนิรอบคัน ถ้าไม่มีต้องระบุให้ชัดเจน ที่สำคัญอย่าลืมนำใบรับรถมาด้วยในวันที่ซ่อมเสร็จ


4.) เอารถเข้าอู่แล้วเก็บใบเสร็จให้ดี
วันรับรถ หลังชำระเงิน เก็บใบเสร็จให้ดี เพราะเป็นสิ่งยืนยันการรับประกันงานซ่อมจากทางอู่ ในกรณีพบความไม่เรียบร้อยของการซ่อมในภายหลัง โดยใบเสร็จต้องระบุไว้อย่างละเอียด ว่าทำการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่อะไรไปบ้าง


5.) เช็ครถก่อนเซ็นรับ
สุดท้าย พนักงานจะพาคุณไปเช็ครถ นอกจากดูในส่วนที่ซ่อมแล้ว รอบคันก็ต้องไม่มีริ้วรอยเสียหายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา จากนั้นตรวจของในรถให้ครบ และดูเลขไมล์ด้วยว่าไม่ได้เกินจากเดิมมากไป ถ้าแค่ขับทดสอบประมาณ 20-30 กม.ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ก็เซ็นรับรถขับกลับบ้านได้เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

www.724.co.th

www.easysunday.com

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้