Last updated: 15 ก.ย. 2565 | 1551 จำนวนผู้เข้าชม |
อุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากประมาท หรือพลาดพลั้ง นำมาซึ่งความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัวหรือของผู้อื่น รวมถึงทรัพย์สินสาธารณะหรือที่เรียกว่า “ของหลวง” อาทิ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ข้างทาง ป้ายจราจร ราวสะพาน และเสาสัญญาณไฟ เป็นต้น และนั่นคือที่มาของคำถามว่า ผู้ที่ขับขี่รถชนจะต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ และประกันรถยนต์ที่ทำไว้จะรับผิดชอบหรือไม่ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
ขับรถชนของหลวง มีความผิดหรือไม่?
เมื่อผู้ใช้รถเกิดประสบอุบัติเหตุขับรถชนจนทำให้ของหลวงเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟฟ้า หรือป้ายจราจร จะมีหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลของหลวงในส่วนนั้น ๆ อาทิ เสาไฟฟ้า อยู่ในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรการไฟฟ้า หรือป้ายจราจร จะอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง ซึ่งผู้ใช้รถจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่หน่วยงานนั้น ๆ
โดยเมื่อหน่วยงานรับเรื่อง ก็จะมีทีมงานส่งไปตรวจสอบความเสียหายโดยรอบ พร้อมคำนวณค่าเสียหาย และค่าแรงสำหรับการซ่อมแซมหรือรื้อถอน จากนั้นจึงส่งเป็นใบแจ้งหนี้ที่ได้คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
อีกทั้งยังมีความผิดจากการสร้างความเสียหายสาธารณสมบัติ โดยจะอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา หมวด 7 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ในมาตรา 360 "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ขับรถชนของหลวง เสียค่าปรับเท่าไหร่
อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะมีราคาไม่เท่ากัน ซึ่งหากผู้ใช้รถขับรถชน ก็จะต้องมีการจ่ายค่าเสียหายควบคู่กับค่าปรับอื่น ๆ โดยชดใช้ในราคาที่แตกต่างกันตามสภาพความเสียหาย อย่างไรก็ตามราคาทั้งหมดนี้เป็นเพียงการประเมินในเบื้องต้นเท่านั้น เพราะในสถานที่เกิดเหตุจริง อาจมีความเสียหายอื่น ๆ ที่ทำให้ถูกคิดค่าเสียหายเพิ่มเติม รวมทั้งราคาอาจจะมากกว่า - น้อยกว่า ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยจะเป็นผู้ชี้แจง ว่าของแต่ละชนิดมีค่าเสียหายที่ต้องจ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ อาทิ
ขับรถชนของหลวง ประกันรับผิดชอบ และจ่ายชดเชยไหม
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่ผู้ใช้รถอยากรู้ก็คือ หากเกิดชนทรัพย์สินของหลวงเสียหาย ประกันจะสามารถจ่าย
ได้หรือไม่ ?
ซึ่งหากผู้ใช้รถทำประกันเอาไว้ บริษัทประกันสามารถเป็นผู้ชดใช้ในส่วนของค่าเสียหายได้ ทั้งเคลมส่วนของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย และทรัพย์สินราชการภายนอก หรือของหลวงได้ แต่จะขึ้นอยู่กับวงเงิน และเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่กำหนด หากเกินกำหนด เจ้าของรถก็จะต้องรับผิดชอบส่วนที่เหลือเพิ่มเติมด้วยด้วยตนเอง โดยประกันแต่ละประเภท จะมีเงื่อนไขคุ้มครองค่าเสียหายจากการชนของหลวงที่แตกต่างกันดังนี้
แต่สำหรับผู้ที่ถือประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ที่ประกันภัยไม่คุ้มครอง จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด หากเกิดความเสียหาย แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณจะมีประกันชั้นไหนก็ตาม ถ้าในกรณีเมาแล้วขับรถไปชนของหลวง จะถือว่าผิดตามสัญญาที่มีไว้ในกรมธรรม์ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูล และราคาคร่าว ๆ ของทรัพย์สินสาธารณะสมบัติบนท้องถนนหรือของหลวง หากเกิดการขับรถชนจนเสียหาย ซึ่งยังไม่รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าปรับ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะตามมาเป็นหางว่าวหากเจ้าของรถพลาดพลั้งไปชนเข้าไม่ว่าจะเป็นเหตุสุดวิสัย หรือจงใจก็ตาม
สิ่งสำคัญของการขับรถที่ปลอดภัยคือตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท เมาไม่ขับ และควรมีประกันรถยนต์ติดตัวไว้เพื่อช่วยเหลือในตอนเกิดอุบัติเหตุ ลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นการขับรถอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎจราจร จะเป็นการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : krisdika.go.th, pea.co.th, doh.go.th, car.kapook.com
13 พ.ย. 2567
8 พ.ย. 2567
11 ธ.ค. 2567