เทคนิคขับรถ ขึ้น-ลงเขาอย่างปลอดภัย

Last updated: 15 ต.ค. 2567  |  111 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคนิคขับรถ ขึ้น-ลงเขาอย่างปลอดภัย

              การขับรถขึ้นเขา ลงเขานั้นถ้าไม่รู้เทคนิคอะไรเลย อาจเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ ได้ เพราะทางถนนบนภูเขานั้น ส่วนใหญ่แล้วมีความซับซ้อน และความลาดชัน ทางเนิ่นสูงแคบ เข้าโค้งหักศอก ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องใช้ประสบการณ์และเทคนิคในการขับขี่ด้วยกันทั้งสิ้น

 

  • ขึ้น-ลง ภูเขา ใช้เกียร์ต่ำ

การขับรถขึ้น-ลงเขาหรือบนถนนที่มีความลาดชันมาก ๆ จำเป็นต้องใช้เกียร์ต่ำเป็นหลัก โดยในขณะขึ้นเขาจะช่วยให้รถมีกำลังมากพอ และหน่วงความเร็วขณะลงเขาจากอัตราทดเกียร์

เกียร์ธรรมดา : ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 หากรู้สึกว่าความเร็วของรถเริ่มตกขณะที่ขับขึ้นทางชัน ให้ลดเกียร์ลงมา 1 ระดับ เพื่อสามารถเร่งเครื่องยนต์และผ่านทางชันนั้นไปได้ จึงเปลี่ยนเข้าเกียร์ตามความเร็วปกติ

เกียร์ออโต้ : ใช้เกียร์ D1, D2 หรือ L ขณะขึ้นเขา-ลงเขา เมื่อพ้นทางชันควรสลับมาที่เกียร์ D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้

 

  • แตะคันเร่งเบาๆ

เร่งเครื่องให้สม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถขึ้นไปได้ ให้สังเกตรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ ที่สำคัญอย่าลืม เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อความปลอดภัย

 

  • ลงเขา แตะเบรกเป็นระยะ

อย่าเหยียบเบรกค้าง  เพราะจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ และควรรักษาระดับความเร็วระหว่างลงเขาให้อยู่ที่ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

  • ห้ามใส่เกียร์ว่าง N เป็นอันขาด

รถจะไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง เพราะไม่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์ช่วยควบคุมความเร็วรถ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง

 

  • มองให้ไกลประเมินเส้นทาง

อย่าแซงทางโค้ง สังเกตป้ายจราจรริมทาง และใช้ความเร็วรถให้เหมาะสมกับเส้นทาง

 

  • ให้สัญญาณ

เมื่อเข้าสู่ทางโค้ง ทางเลี้ยว หรือจุดอับสายตา พยายามบีบแตรหรือใช้สัญญาณไฟอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเตือนรถคันอื่นที่อาจสวนทางมา

 

  • ซื้อประกันรถยนต์

 ม่ว่าจะเป็นทริปไหน ๆ หากเรามีประกันรถยนต์จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทาง ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพราะปัจจุบันประกันรถยนต์นั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภททั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ และ 3 ซึ่งค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครองก็มีความแตกต่างกันออกไป อาทิ
     ประกันรถยนต์ชั้น 1  เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ประเมินตนเองว่ามีประวัติความเสี่ยงในด้านต่างๆ ระหว่างขับขี่รถยนต์จนต้องการประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด
     ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองมาก แต่ราคาประกันประกันรถยนต์ชั้น 2+  ถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ความคุ้มครองต่างกัน 
     ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ประเมินตนเองว่ามีประวัติความเสี่ยงในด้านต่างๆ ระหว่างขับขี่ไม่มาก หรือไม่ค่อยได้ใช้รถ น
     ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และ ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองกับรถฝ่ายคู่กรณีเท่านั้น เช่น มีการซ่อมต่างๆ จนเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นจากรถฝั่งคู่กรณี ทางบริษัทประกันภัยของผู้เอาประกันก็จะรับผิดชอบให้โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนนี้เอง

     การขับรถขึ้นเขา-ลงเขาไม่ใช่เรื่องยาก หากขับจนคุ้นเคยแล้วก็จะง่ายขึ้น ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าปกติ มีสติ ไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและเพื่อนร่วมทาง  หากสนใจทำประกันภัยกับเรา MNR Insurance Broker ได้ตลอด ทุกที่ ทุกเวลาที่คุณต้องการ และบริษัทมีแผนประกันภัยหลากหลายจากบริษัทประกันภัยกว่า 20 บริษัทชั้นนำ ให้ลูกค้าได้เลือกเทียบราคา เรายินดีให้คำปรึกษาลูกค้าทุกท่าน…
โทร  : 085-052-4444
Line : @mnrinsurancebroker

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้